วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เรื่องราวที่นักเรียนสนใจ (3)

ง้องแง้งกับเงอะงะ

                สวัสดีค่า วันนี้เราจะมาพูดถึงการ์ตูนที่เพื่อนๆทุกคน น่าจะเคยดูกันแล้วในตอนเด็กๆ นั้นก็คือ ง้องแง้งกับเงอะงะ หรือ Cow and Chicken กันนั้นเอง การ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนของสหรัฐอเมริกา เน้นตลกไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่ ได้ออกอากาศทางช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์ก  สามารถรับชมกันได้ทางช่องนี้เลยน้า



เนื้อเรื่อง

ง้องแง้งกับเงอะงะ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยของง้องแง้งคือวัวสาวทรงโต กับ เงอะงะคือไก่หนุ่มจอมซ่า ผู้เป็นพี่ชาวของง้องแง้ง ที่มักจะถูกคนตัวแดงตามราวีอยู่เสมอ

ตัวละคร

1. ง้องแง้ง : เป็นวัวสาวที่ชอบเล่นมุข เมื่อถึงเหตุการณ์ที่คับขัน จะเปลี่ยนตัวเองเป็น ซูเปอร์ง้องแง้ง


                           
2. เงอะงะ : เป็นไก่ เป็นพี่ชายของง้องแง้ง นิสัยใจดำและไม่ชอบให้น้องสาวมายุ่งเรื่องของตนเอง แต่ก็ขอความช่วยเหลือจากง้องแง้งตลอดเลย



3. เฟลม : เป็นเพื่อนสนิทของเงอะงะ



4. เอิร์ล : ก็เป็นเพื่อนสนิทของเงอะงะเหมือนกัน



5. พ่อกับแม่ : พ่อกับแม่ของง้องแง้งกับเงอะงะ จะเห็นแค่ช่วงล่าง เพราะเขามีแค่ครึ่งตัว



11. คนตัวแดง : คนตัวแดงที่ไม่ใส่เสื้อผ้า ปรากฏตัวทุกตอนเลย เขามีหลายชื่อและลักษณะนิสัยไม่แน่นอน ดีบ้าง เลวบ้าง ติ๊งต๊องบ้าง




เป็นไงกันบ้างคะ ได้รู้จักการ์ตูนเรื่องนี้กันแล้ว หวังว่าเพื่อนๆจะชอบการ์ตูนเรื่องนี้เหมือนกับเราน้า เราดูเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลย สนุกมากกก หาดูได้ทั้งช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์กและยูทูปได้เลยยย






วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

review/แนะนำ การใช้งาน1โปรแกรม

KakaoTalk

       ในปัจจุบันนี้ แอปพลิเคชั่นที่ใช้ในการสนทนากันไม่ได้มีแค่ LINE เท่านั้น แต่ยังมีแอปพลิเคชั่นที่อยากแนะนำให้รู้จักอีกหนึ่งแอปพลิเคชั่นคือ KakaoTalk ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่นิยมเป็นอันดับหนึ่งในประเทศเกาหลี มีฟังชั่นมากมายอยากให้ลองเล่นกันดูนะคะ มาเริ่มเล่นกันได้เลยค้า

เริ่มแรกติดตั้งแอปพลิเคชั่นก่อน 


เข้าแอปพลิเคชั่น



หาเพื่อนที่จะสนทนา


การหาเพื่อนนี้หาได้ทั้งการค้นหา ID


การหาโดยใช้ QR Code


การหาโดยการ Shake


และยังมี plus friend ให้เพิ่มเพื่อได้ใกล้ชิดเหล่าดารานักร้องทั้งไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีแบรนด์สินค้าลงโฆษณาเพื่อให้สะดวกต่อการติดตามมากขึ้นอีกด้วย



มาเริ่มการสนทนาเลย


มีสติ๊กเกอร์มากมายหลายตัวเลย เคลื่อนไหวได้ด้วย


และยังมีการสนทนาแบบ Free Call 



Free Call สามารถปรับเสียงให้ทุ้มหรือแหลมได้ด้วย


และเพื่อความสวยงามของแอปพลิเคชั่นยังมี ธีม หลากหลายลวดลายเลย โหลดกันได้ฟรี


สติ๊กเกอร์ก็มีให้โหลดฟรีด้วย


ก็อยากให้เพื่อนๆมาลองเล่นแอปพลิเคชั่น KaKaoTalk กันนะคะ เสียงแจ้งเตือนก็น่ารัก ธีมก็สวย มาเล่นกันเยอะๆนะค้า

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

คอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์


มาพบกันอีกแล้วนะทุกๆคน วันนี้เรามาแบบมีสาระกันดีกว่า เราจะมาพูดถึงคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ว่ามีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยดีกว่า
อมพิวเตอร์ หมายถึง  เครื่องคำนวณ  อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถทำงานคำนวณผลและเปรียบเทียบค่าตามชุดคำสั่งด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องและอัตโนมัติ  พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 ได้ให้คำจำกัดความของคอมพิวเตอร์ไว้ค่อนข้างกะทัดรัดว่า  เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เสมือนสมองกล  ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งที่ง่ายและซับซ้อน โดยวิธีทางคณิตศาสตร์ หรืออาจกล่าวได้ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์หมายถึง  เครื่องมือที่ช่วยในการคำนวณและการประมวลผลข้อมูล  จากคุณสมบัตินี้ของเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งไม่ใช่เครื่องคิดเลข  เครื่องคอมพิวเตอร์จึงประกอบด้วยคุณสมบัติ 3 ประการคือ

1. ความเร็ว  (Speed)  เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้ด้วยความเร็วสูงมาก  ซึ่งหน่วยความเร็วของการทำงานของคอมพิวเตอร์วัดเป็น
     - มิลลิเซกัน (Millisecond)      ซึ่งเปรียบเทียบความเร็วเท่ากับ 1/1000 วินาที  หรือ ของวินาที
     - ไมโครเซกัน (Microsecond) ซึ่งเทียบความเร็วเท่ากับ 1/1,000,000 วินาที    หรือของวินาที
     - นาโนเซกัน (Nanosecond)    ซึ่งเปรียบเทียบความเร็วเท่ากับ 1/1,000,000,000 วินาที  หรือของวินาที
 ความเร็วที่ต่างกันนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แต่ละยุค  ซึ่งได้มีการพัฒนาให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ประมวลข้อมูล ได้เร็วในเวลาไม่เกิน 1 วินาที  จะทำให้คอมพิวเตอร์มีบทบาทในการนำมาเป็นเครื่องมือใช้งานอย่างดียิ่ง

2. หน่วยความจำ (Memory)  เครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบไปด้วยความจำ  ซึ่งสามารถใช้บันทึกและเก็บ
 ข้อมูลได้คราวละมากๆ และสามารถเก็บคำสั่ง (Instructions) ต่อๆกันได้ที่เราเรียกว่าโปรแกรม แลนำมาประมวลในคราวเดียวกัน ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานเก็บข้อมูลได้ครั้งละมากๆ เช่น    การสำรวจสำมะโนประชากร  หรือรายงานผลการเลือกตั้งซึ่งทำให้มีการประมวลได้รวดเร็วและถูกต้อง   จากการที่หน่วยความจำสามารถบันทึกโปรแกรมและข้อมูลไว้ในเครื่องได้  ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีคุณสมบัติพิเศษ  คือสามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติ   ในกรณีที่มีงานที่ต้องทำซ้ำๆหรือบ่อยครั้งถ้าใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยในการทำงานเหล่านั้นก็จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงซึ่งจะได้ทั้งความรวดเร็ว  ถูกต้องแม่นยำและประหยัดเนื่องจากการเขียนคำสั่งเพียงครั้งเดียวสามารถทำงานซ้ำๆได้คราวละจำนวนมากๆ

3. ความสามารถในการเปรียบเทียบ (Logical)  ในเครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบไปด้วยหน่วยคำนวณและตรรกะซึ่งนอกจากจะสามารถในการคำนวณแล้วยังสามารถใช้ในการเปรียบเทียบซึ่งความสามารถนี้เองที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ต่างกับเครื่องคิดเลข และคุณสมบัตินี้ทีทำให้นักคอมพิวเตอร์สร้างโปรแกรมอัตโนมัติขึ้นใช้อย่างกว้างขวาง เช่นการจัดเรียงข้อมูลจำเป็นต้องใช้วิธีการเปรียบเทียบ การทำงานซ้ำๆตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือการใช้คอมพิวเตอร์ในกิจการต่างๆซึ่งเกิดขึ้นมากมายในปัจจุบัน และการใช้แรงงานจากคอมพิวเตอร์แทนแรงงานจากมนุษย์ทำให้รวดเร็วถูกต้อง สะดวกและแม่นยำ เป็นการผ่อนแรงมนุษย์ได้เป็นอย่างมาก 

ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ แบ่งตามลักษณะการเชื่อมต่อทางภูมิศาสตร์ หรือระยะทางการเชื่อมต่อ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ

1. ระบบเครือข่ายท้องถิ่น (Local Area Network : LAN)

การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระยะใกล้ภายในสำนักงาน หรืออาคารเดียวกัน หรืออาคารที่อยู่ใกล้กันโดยใช้ สายสัญญาณ ได้แก่ สายโทรศัพท์ สายโคแอกเชียล หรือ สายใยแก้วนำแสงตัวอย่างเช่น เครือข่ายภายในมหาวิทยาลัย ภายในอาคารหรือบริษัทเดียวกัน ระบบเครือข่ายท้องถิ่น สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ การปฏิบัติงาน ในด้านการใช้ทรัพยากร ของระบบร่วมกัน หรือสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่นได้ ระบบ LAN ช่วยให้มีการติดต่อกันได้สะดวก ช่วยลดต้นทุน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ร่วมกัน และใช้ข้อมูลร่วมกันได้อย่างคุ้มค่า

2. ระบบเครือข่ายระดับเมือง (Metropolitan Area Network : MAN) 
 การเชื่อมต่อ เครือข่ายคอมพิวเตอร์  เป็นเครือข่ายขนาดกลาง ที่มีระยะทางการเชื่อมต่อไกลกว่า ระบบเครือข่ายท้องถิ่น (LAN) แต่ระยะทางยังคงใกล้กว่าระบบ WAN (Wide Area Network) ได้แก่เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมต่อกันภายในเมืองเดียวกันหรือจังหวัดเดียวกัน ในเขตเดียวกัน ตัวอย่างเช่น เคเบิลทีวี

3. ระบบเครือข่ายระยะไกล (Wide Area Network : WAN) 
 การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ระยะไกล เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ เช่น ระหว่างประเทศ การเชื่อมต่อเครือข่ายทั่วโลก ติดตั้งใช้งานบริเวณกว้างมีสถานีหรือจุดเชื่อมมากมาย และใช้สื่อกลางหลายชนิด เช่น ไมโครเวฟ ดาวเทียม เนื่องจากเป็นการติดต่อสื่อสารระยะไกล อัตราการรับส่งข้อมูลจึงต่ำ และมีโอกาสผิดพลาดได้สูง การสื่อสารระยะไกล จำเป็นต้องมีอุปกรณ์แปลงสัญญาณ คือ โมเด็ม ช่วยในการติดต่อสื่อสาร และสามารถนำเครือข่าย LAN มาเชื่อมต่อกัน เป็นเครือข่ายระยะไกลได้ ตัวอย่างของเครือข่ายระยะไกล เช่น อินเทอร์เน็ต เครือข่ายระบบงานธนาคารทั่วโลก เครือข่ายของสายการบิน เป็นต้น




ขอบคุณข้อมูลดีๆนี้จาก https://praewpan56.wordpress.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80/ 

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วิเคราะห์ข้อสอบ o-net

วิเคราะห์ข้อสอบ O-net



1. ข้อใดไม่ใช่ ขั้นตอนหลักในการทำงานของคอมพิวเตอร์

   ก.  ประมวลผล            ข.  เก็บข้อมูล  

   ค.  รับข้อมูล               ง.  แสดงผลลัพธ์ 

     
   จ.  นำข้อมูลเข้า

วิเคราะห์


ตอบ จ, เพราะ นำข้อมูลเข้า คือ เราต้องนำข้อมูลลงคอมพิวเตอร์เอง       


ส่วน ประมวลผล เก็บข้อมูล รับข้อมูล แสดงผลลัพธ์ คือ คอมพิวเตอร์จะทำงานเอง



2. IP Address คือ


   ก.  หมายเลยประจำตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่เชื่อมต่ออยู่ในเครือข่าย


   ข.  โพรโทคอลที่ใช้ในการเชื่อมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ต


   ค.  หมายเลขประจำของเครื่องเซิร์ฟเวอร์


   ง.  ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต


   จ. ถูกทุกข้อ


วิเคราะห์


ตอบ ก. เพราะ  ip address คือ เลขรหัสประจำคอมพิวเตอร์ที่ต่ออยู่บนเครือข่าย


แต่โพรโทคอลที่ใช้ในการเชื่อมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ต คือ โพรโทคอล



3. ไฟล์ที่ถูกบีบอัดด้วยโปรแกรม WinZip จะมีส่วนขยายหรือนามสกุลไฟล์ตามข้อใด


   ก.  .doc               ข.  .zip  


   ค.  .com               ง.  .txt  


   จ.  .exe


วิเคราะห์


ตอบ ข. เพราะ .doc  คือ   ไฟล์ Word 


                        .txt    คือ   Text ไฟล์ธรรมดา

                
                       .com  และ .exe  คือ  ไฟล์ที่ทำงานด้วยตัวเอง


4. ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการที่อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายสาธารณะไม่จำกัดผู้ใช้  ปัญหาดังกล่าวคือ 


   ก.  อาจมีผู้บุกรุก เข้าทำลายระบบคอมพิวเตอร์      ข.  ความปลอดภัยของข้อมูล


   ค.  ลิขสิทธิ์                                                  ง.  ไวรัสคอมพิวเตอร์ทำลายข้อมูล


   ง.  ถูกทุกข้อ

         
วิเคราะห์

ตอบ ง. เพราะ ทุกข้อเกิดขึ้นจากอินเทอร์เน็ตที่เป็นเครือข่ายสาธารณะ มีผู้บุกรุกมาทำลายระบบได้ มี


ไวรัสแฝงเข้ามาได้



5.  s15550036@student.rit.ac.th  ข้อความ “s1555036” หมายถึงข้อใด


     ก.  Domain Name            ข.  Password    


     ค.  Sub Domain               ง.  Username    


     จ.  ISP

           
วิเคราะห์

ตอบ ง. เพราะ     Username          คือ  บัญชีผู้ใช้


                        Domain Name    คือ  ชื่อเว็บไซต์


                        Password          คือ   รหัสผ่าน

                        Sub Domain       คือ   เว็บย่อยของเว็บไซต์

           
                        ISP                    คือ  หน่วยงานที่ช่วยเชื่อมต่อ Internet


ที่มา : http://tongrod-tongrod.blogspot.com/2012/02/o-net.html


วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เรื่องราวที่นักเรียนสนใจ (2)

โลกของซุปเปอร์ฮีโร่จากต่างดาว


          สวัสดีเพื่อนๆชาวโซเชียล ขอต้อนรับเข้าสู่โลกของซุปเปอร์ฮีโร่จากต่างดาวกันน้าาา  เราจะมาพูดถึงซุปเปอร์ฮีโร่ที่เด็กที่สุดในเหล่าฮีโร่ทั้งหลาย และเป็นที่นิยมอย่างมากในตอนนี้ นั้นก็คือ เบ็นเท็น




            เบ็นเท็นมีเรื่องราวเริ่มจาก เบ็น หรือ เบ็นจามิน เท็นนีย์สัน กำลังหยุดฤดูร้อนอยู่กลางป่านั้น เบ็นได้บังเอิญไปเจอกับดาวตก เมื่อเข้าไปดูก็พบว่าเป็นกระสวยอวกาศที่ตกลงมาบนโลก ข้างในนั้นคือ ออมนิทริกซ์ แล้วจู่ๆออมนิทริกซ์ก็กระโดดเข้ามาติดแขนของเบ็นแบบไม่ยอมปล่อย ซึ่งในออมนิทริกซ์นั้นมีพลังให้เบ็นสามารถเปลี่ยนร่างเป็นสิ่งมีชีวิตต่างดาวได้ถึง 10 แบบ แต่ละร่างนั้นมีลักษณะแตกต่างกัน มีพลังที่แตกต่างกันด้วย เบ็นตัดสินใจใช้พลังนี้ในการปกป้องผู้คนจากเหล่าร้ายต่างๆตั้งแต่ สัตวแพทย์สติเฟื่อง จอมเวทย์ ผู้ควบคุมแมลง และเหล่ามนุษย์ต่างดาวในอวกาศที่มาวุ่นวายบนโลก ในเหล่ามนุษย์ต่างดาวนี้ได้มีตัวหนึ่งชื่อ วิวแก็ก วางแผนจะมาชิงออมนิทริกซ์จากเบ็น เบ็นจึงต้องปกป้องโลกและจักรวาลจากวายร้ายและรักษาออมนิทริกซ์ไม่ให้ไปตกอยู่ในมือของวิวแก็กให้ได้ 


ตัวละครในเรื่องนี้มีหลักๆ คือ


1. เบ็น เบ็นจามิน เท็นนีย์สัน


2. เกวน เท็นนีย์สัน


3. ปู่แม็ก



ในออมนิทริกซ์ได้มีสิ่งมีชีวิตต่างดาวอยู่ 10 ตัว ก็คือ

1. ฮีทบลาสท์ : ร่างนี้เป็นไฟทั้งตัวเลย สามารถสร้างลูกไฟขนาดใหญ่ได้และยิงลูกไฟได้หลายรูปแบบ


2. โฟร์อาม : มีพละกำลังมากที่สุดในกลุ่มเอเลี่ยนทั้งหมด ผิวหนังมีความหนา สามารถป้องกันการโจมตีจากศัตรูได้


3.เกย์ แมตเตอร์ : ตัวนี้มีความสูงเพียงแค่ 6 นิ้ว เลยสามารถผ่านช่องเล็กๆได้ แถมผิวหนังยังหนึบๆ เกาะผนังได้แน่น มีฟันแหลมคม แต่จุดเด่นตัวนี้คือความฉลาดที่สุดในจักรวาล สามารถแก้ปัญหาได้ดีมาก


4. ริพจอวส์ : ตัวนี้เป็นปลาสามารถว่ายน้ำได้ลึกทุกระดับ และขาทั้ง2ข้างสามารถเปลี่ยนเป็นคมหาง ให้ว่ายให้เร็วขึ้นได้ มือและฟันมีความคมมาก แต่ตัวนี้ไม่สามารถอยู่บนบกได้นานเพราะผิวจะแห้ง


5.ไดมอนดด์เฮด : ร่างนี้เป็นเพชร สามารถยิงผลึกเพชรออกจากมือได้ ผลึกนี้มีความคมมาก และตัวนี้ยังสามารถทำให้เพชรขึ้นมาจากพื้นได้ แต่ตัวนี้ไม่สามารถป้องกันตัวเองจากคลืนเสียงได้เพราะจะทำให้ตัวเค้าได้รับบาดเจ็บ


6.ไวลด์มัทท์ : ตัวนี้มีลักษณะคล้ายสุนัข แต่ตัวนี้ไม่มีตา สามารถรับรู้ได้ด้วยจมูก สามารถดมกลิ่นหาศัตรูได้ และตัวนี้ยังปีนป่ายเก่งอีกด้วย

7.โกสท์ฟรีค : ตัวนี้สามารถเคลื่อนผ่านสิ่งของต่างๆได้ ล่องหน และบินได้ ตาของตัวนี้ยังสามารถเคลื่อนที่ไปได้ทุกส่วนของร่างกาย


8.แอคเซลเลอเรท : ตัวนี้วิ่งได้ด้วยความเร็วสูง สูงจนเกิดเป็รพายุทอร์นาโดได้เลย และมือเป็น 3 แฉก สามารถตัดสิ่งของได้ทุกสิ่ง แต่ตัวนี้ไม่สามารถวิ่งบนพื้นลื่นกับที่ไร้แรงโน้มถ่วง


9.สติงก์ฟลาย : ตัวนี้บินได้อย่างรวดเร็ว ตาและปากสามารถพ่นเมือกเหลวได้ ขาและหางมีความแหลมคมตัดสิ่งต่างๆได้ แต่ไม่สามารถโดนน้ำได้เพราะจะบินไม่ได้เลย


10.อัพเกรด : สามารถรวมร่างกับเครื่องจักรต่างๆ และยังสามารถพัฒนาเครื่องจักรให้สมบูร์แบบได้ด้วย ร่างเค้ามีความยืดยุ่นสูงแถบไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีได้เลย



และมาถึงวายร้ายที่ร้ายที่สุดกันเลย นั้นคือ วิวแก็ก




เราไปท่องโลกของเหล่าเอเลี่ยนมาพอแล้ว มันถึงเวลาที่เราจะต้องกลับโลกของเราซะที ไว้เจอกันใหม่       บล้อคหน้านะค่าา

ขอบคุณข้อมูลและรูปดีๆจาก http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/06/A6714509/A6714509.html




วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์

โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์

           สวัสดีค่าาา ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกแห่งภาษาจาวา ภาษาแห่งความวิเศษที่คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถแปลออกได้ ก็มาอ่านกันนะคะว่าภาษาจาวาคืออะไร และเราก็มีเพลงเพลินๆมาประกอบในการอ่านกันด้วยนะ อ่านให้จบก่อนน้าอย่าพึ่งเต้นกันซะก่อนล้าาา

ภาษาJAVA

          Java หรือ Java programming language คือ ภาษาคอมพิวเตอร์ สำหรับเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ ภาษานี้มีจุดประสงค์เพื่อใช้แทนภาษาซีพลัสพลัส (C++) ภาษานี้มีจุดเด่นอยู่ที่ผู้เขียนโปรแกรมสามารถใช้หลักการของ Object-Oriented Programming มาพัฒนาโปรแกรมของเราได้ 


องค์ประกอบ JAVA
  • จาวา เป็นภาษาที่อิสระในเรื่องของรูปแบบ ในการพิมพ์ source code เราจะย่อหน้าหรือไม่ย่อหน้า จะวรรคกี่เคาะ โปรแกรมก็รันได้เหมือนเดิม
  • จาวา มีองค์ประกอบและไวยากรณ์คล้าย C และ C++
  • Primitive Data Types มี boolean, byte, short, char, int, float เราก็เลือกใช้ให้เหมาะสม โปรแกรมจึงจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Operators แต่ละคู่นี้ต้องเขียนหรือพิมพ์ติดกัน :  ==,   !=,   <=,   >=,   &&,   ||

ลักษณะและไวยากรณ์ของ JAVA

 Comments มี 3 แบบ

      // 
/*             */
      /**           */

อันที่จริงเราไม่ใช้ Comment เลยก็ได้ เพราะมันเป็นแค่หมายเหตุ หรือคำอธิบายเท่านั้น คอมฯ ไม่นำมาประมวลผลเลย แต่สำหรับโปรแกรมเมอร์ระดับอาชีพ เขียนโปรแกรมใหญ่ๆ บางบรรทัด บางบล็อกของโค้ดที่สำคัญเขาจะทำ Comment ไว้กันลืม ง่ายต่อการแก้ไขปรับปรุงใน 3 ปี 5 ปี ข้างหน้า เป็นต้น หรือแม้แต่เจอ bug ในปัจจุบันก็จะหาสาเหตุของ bug ได้ง่ายขึ้น
  • เครื่องหมายสำคัญ
           ;                 เรียกว่า statement separator
     {            }        เรียกว่า statement grouper

โครงสร้างคุมโปรแกรม

  • การเขียนโปรแกรมเรียกว่า coding
  • โปรแกรมประกอบด้วยหลายๆ statements (ประโยคคำสั่ง)
  • แต่ละ statement สิ้นสุดด้วยเครื่องหมาย  ;  (semicolon)
  • โดยทั่วไป โปรแกรมทำงานอะไรก่อน อะไรหลัง จะเป็นไปตามลำดับเดียวกันกับลำดับของ statements ในโปรแกรมนั้น
  • ในบางกรณีที่เราไม่ต้องการให้โปรแกรมทำงานตามลำดับเดียวกันกับลำดับของ statements เราก็ต้องใช้ if, if…else, switch…case, และ loopsเช่น for, while, do…while เพื่อข้ามบาง statements ไป
  • การเขียน loops ถ้าเขียนผิด อาจรันวนไม่หยุด (เรียกว่า infinite loop) จงกด Ctrl+C ให้หยุด แล้วแก้ไข
METHOD

          Method คือ บล็อกหรือกลุ่มของโค้ด สั่งให้คอมทำอะไรสักอย่าง คำ Method ในภาษา Java ตรงกับคำ Function หรือ Procedure ในภาษาอื่นๆ

การเรียกใช้ Method

Methods ต่างๆ เมื่อเราเขียนขึ้นแล้วมันก็จะอยู่เฉยๆอย่างนั้น
ถ้าเราต้องการให้มันทำงานก็มี 3 วิธี ดังนี้

1) สร้าง variable เพื่อรับค่าส่งกลับของ method
ตัวอย่าง     int larger = max(3, 4);

หรือ

2) ใช้ statement
ตัวอย่าง     System.out.println(“Hello World!”);

หรือ

3)กด ดับเบิลคลิก แดรก 
ตัวอย่าง    public void actionPerformed(ActionEvent event) //เมธอดนี้ทำงานเมื่อผู้ใช้คลิกปุ่ม

ละก็มาถึงข้อดี ข้อเสียของภาษาจาวากันนะคะ

ข้อดีของภาษาจาวา
  1. เหมาะกับการพัฒนาโปรแกรมที่ซับซ้อน และนำคำหรือชื่อต่างๆในระบบงานนั้นมาใช้ออกแบบโปรแกรม ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
  2. สามารถทำงานได้ในระบบที่แตกต่างกัน ไม่จำเป็นต้องแก้ไข เช่น หากเขียนโปรแกรมบนเครื่อง Sun โปรแกรมนั้นก็สามารถถูก compile และ run บนเครื่องพีซีธรรมดาได้
  3. ภาษานี้มีความซับซ้อนน้อย ทำให้ใช้งานได้ง่ายกว่า และลดความผิดพลาดได้มากขึ้น
  4. ภาษานี้มีการตรวจสอบข้อผิดพลาดทั้งตอน compile time และ runtime ทำให้ลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในโปรแกรมได้ และช่วยให้ debug โปรแกรมได้ง่าย
  5. ภาษานี้มีความปลอดภัยมากกว่าโปรแกรมอื่น
  6. มี IDE, application server, และ library ต่าง ๆ ที่สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทำให้ลดค่าใช้จ่ายได้
ข้อเสียของภาษาจาวา
  1. ทำงานได้ช้ากว่าโปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาอื่น


เราก็ขอจบภาษาจาวาลงเพียงเท่านี้นะคะ เอาไว้ติดตามกันวีคหน้าค้า

ที่มา : https://nongtha57.wordpress.com/power-point-java/


วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2558

โซเชียลเน็คเวิร์คกับนักเรียนและสังคมไทย


         โซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือ Social Network คือเครือข่ายสังคมออนไลน์  หรือการที่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตคนหนึ่ง เชื่อมโยงกับเพื่อนอีกนับสิบ รวมไปถึงเพื่อนของเพื่อนอีกนับร้อย ผ่านผู้ให้บริการด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) บนอินเตอร์เน็ต เช่น Facebook, Blogger, Hi5, Twitter หรือ Tagged เป็นต้น (บางเว็บไซต์ที่กล่าวถึงในตัวอย่าง ปัจจุบันนี้ได้เสื่อมความนิยมแล้ว)  การเชื่อมโยงดังกล่าว ทำให้เกิดเครือข่ายขึ้น เช่น เราสามารถรู้จักเพื่อนของเพื่อนเราได้  เป็นทอดๆ ต่อไปเรื่อย  ทำให้เกิดสังคมเสมือนจริงขึ้นมา  สามารถสร้างคอนเน็คชั่นใหม่ๆ ได้ง่าย  และเมื่อเราแชร์ (Share) ข้อความหรืออะไรก็ตามลงไปในเครือข่าย  ทุกคนในเครือข่ายก็สามารถรับรู้ได้พร้อมกัน  และสามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เราแชร์ได้  เช่น  แสดงความคิดเห็น (Comment)  กดไลค์ (Like) ซึ่งอาจจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละผู้ให้บริการ  ความโดดเด่นในเรื่องความง่ายของโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) ทำให้ธุรกิจ และนักการตลาดสนใจที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการ
ข้อดีของโซเชียลเน็ตเวิร์ค

1. สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ในสิ่งที่สนใจร่วมกันได้ 

2.เป็นคลังข้อมูลความรู้ขนาดย่อมเพราะเราสามารถเสนอและแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความรู้ หรือตั้งคำถามในเรื่องต่างๆ เพื่อให้บุคคลอื่นที่สนใจหรือมีคำตอบได้ช่วยกันตอบ

3. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารกับคนอื่น สะดวกและรวดเร็ว

4. เป็นสื่อในการนำเสนอผลงานของตัวเอง เช่น งานเขียน รูปภาพ วีดิโอต่างๆ เพื่อให้ผู้อื่นได้เข้ามารับชมและแสดงความคิดเห็น 

5. ใช้เป็นสื่อในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือบริการลูกค้าสำหรับบริษัทและองค์กรต่างๆ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า

6. ช่วยสร้างผลงานและรายได้ให้แก่ผู้ใช้งาน เกิดการจ้างงานแบบใหม่ๆ ขึ้น 

7. คลายเคลียดได้สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการหาเพื่อนคุยเล่นสนุกๆ 

8. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีจากเพื่อนสู่เพื่อนได้ 

ข้อเสียของโซเชียลเน็ตเวิร์ค

1.เว็บไซต์ให้บริการบางแห่งอาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป หากผู้ใช้บริการไม่ระมัดระวังในการกรอกข้อมูล อาจถูกผู้ไม่หวังดีนำมาใช้ในทางเสียหาย หรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้
2. Social Network เป็นสังคมออนไลน์ที่กว้าง หากผู้ใช้รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือขาดวิจารณญาณ อาจโดนหลอกลวงผ่านอินเทอร์เน็ต หรือการนัดเจอกันเพื่อจุดประสงค์ร้าย ตามที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์
3. เป็นช่องทางในการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ขโมยผลงาน หรือถูกแอบอ้าง เพราะ Social Network Service เป็นสื่อในการเผยแพร่ผลงาน รูปภาพต่างๆ ของเราให้บุคคลอื่นได้ดูและแสดงความคิดเห็น 
4. ข้อมูลที่ต้องกรอกเพื่อสมัครสมาชิกและแสดงบนเว็บไซต์ในรูปแบบ Social Network ยากแก่การตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ ดังนั้นอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่กำหนดอายุการสมัครสมาชิก หรือการถูกหลอกโดยบุคคลที่ไม่มีตัวตนได้ 
5. ผู้ใช้ที่เล่น social network และอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจสายตาเสียได้หรือบางคนอาจตาบอดได้
6. ถ้าผู้ใช้หมกหมุ่นอยู่กับ social network มากเกินไปอาจทำให้เสียการเรียนหรือผลการเรียนตกต่ำลงได้

7. จะทำให้เสียเวลาถ้าผู้ใช้ใช้อย่างไร้ประโยชน์
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ social network

โซเชียลเน็ตเวิร์คที่นิยมใช้กันในสังคม

1. Facebook – เชื่อว่าตอนนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักเฟสบุ๊ค แบรนด์ใหญ่ต่างๆมีการสร้างแฟนเพจเพื่อเพิ่มช่องทางในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้า เช่น ให้คนกดติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแบรนด์ของตัวเองโดยการกด Like ที่เพจนั้นเอง

2. Line –  แอฟพลิเคชั่นแชทยอดฮิต ที่ปัจจุบันในไทยมีผู้ใช้งานมากกว่า 33 ล้าน มีจุดเด่นคือเป็นเจ้าแรกที่สามารถส่งสติ๊กเกอร์น่ารักๆให้คนอื่นได้ ในมุมของการตลาด นอกจาก Line จะอนุญาติให้แบรนด์ต่างๆสร้างสติ๊กเกอร์แบรนด์ของตัวเอง ก็ยังมี Official Account ซึ่งเป็นอีกช่องทางนึงที่แบรนด์สามารถส่งข้อมูลข่าวสารให้กับผู้ติดตามตนเองได้มากยิ่งขึ้น
3. Twitter  – โซเชียลมีเดียที่ขึ้นชื่อว่าใช้งานง่ายที่สุด เพราะถึงแม้ว่าจะพิมพ์ข้อความได้เพียง 140 ตัวอักษร แต่นั้นก็ช่วยกลั่นกรองให้ผู้เขียนพิมพ์เฉพาะใจความสำคัญลงไป ทำให้ข้อความที่ส่งออกไปนั้นกระชับ และง่ายต่อการอ่าน
4. Youtube  – เว็บไซต์บริการที่ให้ผู้ใช้สามารถแชร์วีดีโอให้ผู้อื่นดูได้ โดยที่ยูทูปจัดเป็น 1 ในเว็บไซต์สำคัญสำหรับนักการตลาด ที่เราสามารถโฆษณาวีดีโอคอนเท้นท์ของเราให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้
5.Instagram – โซเชียลมีเดียที่เราสามารถอัพโหลดรูปภาพต่างๆและแชร์ให้กับผู้ติดตามของเราได้ โดยที่แบรนด์ต่างๆสมัยนี้ก็นิยมใช้ Instagram เป็นสื่อกลางเพื่อโปรโมทและให้ข้อมูลข่าวสารกับผู้ติดตามเช่นเดียวกัน
6. Snapchat  – แอฟพลิเคชั่นที่เราสามารถแชร์รูป วีดีโอ ให้กับผู้อื่นได้ โดยเราสามารถตั้งเวลาได้ว่าจะให้รูปนั้นโชว์กี่วินาที เมื่อครบเวลาที่กำหนดรูปนั้นก็จะถูกลบออกทันที
7. Whatsapp  – แอฟพลิเคชั่นแชทยอดนิยมที่มีผู้ใช้งานปัจจุบันมากกว่า 700 ล้านคนทั่วโลก
8. LinkedIn  – Platform ที่เน้นในเรื่องของการทำธุรกิจโดยตรง เป็นทั้ง Business Community ที่อัพเดทข่าวสาร และยังช่วยให้บริษัทสามารถว่าจ้างบุลคากรที่มีประสิทธิภาพมาเข้าร่วมทำงานกับบริษัทได้
9. LinkedIn Pulse – Pulse ของ LinkedIn ซึ่งเป็นช่องทางที่คนสามารถแชร์ไอเดียใหม่ๆ และติดตามผู้นำความคิด (Thought Leader) ในอุตสาหกรรมนั้นๆได้
10. Pinterest  –  เว็บที่เป็นเหมือน Inspiration Board ให้กับคนหลายๆคน เป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง มีฟังก์ชั่นให้เราสามารถแชร์รูปภาพ ความคิดสร้างสรรค์เจ๋งๆ ให้กับคนอื่น โดยผู้ใช้สามารถ “Pin” ข้อมูลเหล่านั้นเก็บไว้เป็นหมวดๆได้
11. Google+  –  แพลดฟอร์มน้องใหม่จาก Google ที่รวมบริการต่างๆของ Google เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ผู้ใช่งานนั้นสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังสามารถให้ผู้ใช้งานสร้างคอนเท้นท์ต่างๆ  แชร์ข้อมูลแลกเปลี่ยนกับเพื่อนใน Circles ที่ตนเองสร้างได้
12. Vine – โซเชียลมีเดียที่มีจุดเด่นในการแชร์วีดีโอคอนเท้นท์สั้นๆ ไม่เกิน 6 วินาที ทำให้ข้อมูลต่างๆจะสื่อสารกับผู้ใช้นั้น ถูกผ่านการกลั่นกรองมาอย่างดี เพื่อที่จะใช้ 6 วินาทีนั้นให้คุ้มค่าที่สุด
13. Xing – เป็นเว็บไซต์หางานที่ดีเว็บไซต์นึง สามารถช่วยให้เราพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้ว่าจ้าง และ ผู้นำความคิดในธุรกิจนั้นๆได้
14. Renren  – โซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดในจีน มีการใช้งานจะคล้ายกับ Facebook คือผู้ใช้สามารถแชร์ความเห็นของตัวเอง อัพเดทสเตตัส และติดต่อกับผู้อื่นได้
15. Disqus  –  เป็น Tool ที่ให้เราสามารถใช้รับมือกับ feedback คอมเม้นต่างๆ และสแปม บนเว็บไซต์ของเรา อีกทั้งยังช่วยให้เราสามารถสร้าง social engagement กับลูกค้าได้อีกด้วย
16. Tumblr  –  เว็บบล๊อกที่มีจุดเด่นตรงที่ผู้ใช้สามารถอัพโหลดภาพเคลื่อนไหว ภาพ gif ลงไปได้ ซึ่งต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น Facebook ที่ไม่รองรับฟังก์ชั่นนี้
17. Twoo  –  เว็บไซต์หาคู่ที่ช่วยให้ผู้ใช้พบปะผู้คนใหม่ๆ จับกลุ่มเป้าหมายอายุ 25 ปี หรือต่ำกว่า จากทั่วโลก
18. MyMFB  – โซเชียลมีเดียของมุสลิม มีฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆเหมือน Facebook โดยมีเป้าหมายที่จะเชื่อมโยงผู้ใช้มากกว่า 1.5 พันล้านคน เข้าเป็นแพลตฟอร์มเดียว
19. vk.com – โซเชียลมีเดียสัญชาติรัสเซีย โดยที่เราสามารถตั้งโปรไฟล์ ส่งข้อความได้ มีวิธีการใช้งานแทบจะไม่ต่างจาก Facebook เลย
20. Meetup – แพลทฟอร์มที่ช่วยให้เราสามารถพบปะกลุ่มคนใหม่ๆที่มีความสนใจและความชอบเหมือนๆเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเหมือนกับเรา ทำให้เราได้มีเพื่อนเพิ่มในวงที่กว้างขึ้น


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ social network
ที่มา : http://www.brandbuffet.in.th/2015/04/best-20-social-media-2015
http://www.thaigoodview.com/library/contest2553/type1/tech03/26/benefit.html